การปลูกยางพื้นที่ใหม่ในภาคอีสานPara Rubber in North East Areaบทนำการปลูกยางเริ่มจากภาคใต้ตั้งแต่ชุมพรลงไปจรดมาเลเซีย มาทางภาคตะวันออกแถบจันทบุรี หลังจากนั้นก็พัฒนามาทางภาคกลางแถบฉะเชิงเทรา ตะวันตกก็มีแถบกาญจนบุรี สระบุรีแถบมวกเหล็ก ขึ้นสู่ภาคเหนือมีพิษณุโลก เพชรบูรณ์ ตาก เชียงราย สู่ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือมี นครราชสีมา ตั้งแต่ปากช่อง จนถึงเลย อุดรธานี หนองคาย จนถึงประเทศลาวยางถุงดำติดตา- ขนาดถุง 11x35 ซม. ดินสูง 25 ซม ต้องสูงพอให้รากลงลึกได้ ไม่เน้นกว้างเน้นลึกหากดินถุงแตกจะทำให้รากบาดเจ็บ- ความสูงของยาง 1 ฉัตร ไม่เกิน 2 ฉัตร ต้องแข็งแรงพอ ความสูงต้นยางไม่น้อยกว่า 20 ซม. เพื่อไม่ให้ยางอ่อนไปจะทนแดดไม่ไหว- การขนส่งยางถุงดำ ควรใช้ตาข่ายคลุม ป้องกันลมกระแทก ทำให้ใบยางซ้ำ หรือกิ่งถูกตีกระแทกซ้ำ ให้ถนอมไว้- ให้ตรวจหลุมก่อนปลูกด้วย ว่ากว้างพอ ดินข้างหลุมไม่แข็งไม่มีหินดานก้นหลุม- ก่อนปลูกขนยางมาถึงพื้นที่ ให้พักยางอย่างน้อย 7 วันให้ต้นยางพักคัว ก่อนลงหลุม (ออกศึก)- แถวยางเดียวกันให้โตเท่าๆ กัน- เหลือยางไว้ไส่ถุงเก็บเอาไว้ เผื่อเอาไว้ปลูกซ่อมเวลาต้องยางที่ปลูกลงดินแล้วเกิดตายวิธีการปลูก- ขนาดหลุมปลูก 50x50x50 ซม.- ช่วงเวลาที่ปลูกมีต้นฝน พฤษภาคม-กรกฎาคม- ต้นยางที่ปลูก 1-2 ฉัตร ลักษณะแข็งแรงสมบูรณ์ยอดไม่อ่อน วางไว้สู้แดดแล้ว- ให้ตาที่ติดต้นหันไปทางเดียวกันแนะนำหันไปทางทิศตะวันตกให้ตาหลบแดด- วิธีการปลูกเริ่มจากการใช้มีดตัดก้นถุงให้ขาด ระวังหากรากลงก้นทะลุดินแล้วถึงต้องตัดจะทำให้ต้นยางเสียกำลัง- กรีดด้านข้างถุงตามยาวแนวสูง- วางลงกันหลุม- กลบดินทับรอบๆ ถุง อย่าให้ดินหลุด- ดึงถุงดำจากดิน- กลบดินให้เสมอดินในถุง- อย่าให้ดินกลบถึงตาต้นหรือทำให้ทรายหรือดินมากลบจะทำให้ดินทรายร้อนลวกตายางทำให้ต้นยางตายได้- ปักไม้ (ไผ่) ผูกยางกับหลักเพื่อไม่ให้ต้นยางโยกเวลาถูกลมพัดกระชาก- ยางเหลือ เก็บไว้ในร่มรอไว้ปลูกซ่อม- 1 เดือน ไปดูยางที่ปลูกหากพบว่าตายให้ปลูกซ่อมทันทีเพื่อให้ยางโตไล่ได้ทันการใส่ปุ๋ย- ใส่ปุ๋ยปีแรก 3 ครั้ง ใช้ปุ๋ยสูตร 20-10-12- ต้นละ 1 กำมือ โรยรอบต้น หรือขุดหลุมฝังปุ๋ย 4 จุด ในกรณีพื้นที่ราบ- พื้นที่ลาดใช้ฝังปุ๋ย 2 จุด ด้านบนความลาดเหนือต้นยางที่ปลูก- ใส่ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ 1 กก./ตันต้นพืชแซมยางต้นพืชแซมในสวนยางมีข้าวไร่ ข้าวโพด สัปรด (บางแห้งนิยมเผาไร่ข้าวโพดหลังเก็บเกี่ยว แบบนี้ระวังไฟไหม้ต้นยาง) ให้ปลูกพืชแซมยาง ห่างจากต้นยาง 1 เมตร หรือห่างจากแถวยางข้างละ 1 เมตร ปลูกพืชแซมยางช่วงปีที่ 1-3 การปลูกพืชแซมจะช่วยกำจัดวัชพืชด้วยพืชคลุมดินพืชคลุมดินในสวนยางจะช่วยเพิ่มอินทรีย์สารรักษาความชื้นในสวนยางปัญหาในปัจจุบันก็คือ หาเมล็ดพันธุ์พืชคลุมยากส่วนใหญ่ได้มาจากสถานีพัฒนาที่ดินการดูแลต้นยางปีที่ 1- ใช้ปุ๋ยสูตร 20-10-12 ตั้งแต่ปีแรกถึงปีที่ 7 (จนถึงกรีดยาง)- ใส่ปุ๋ย 2 ช่วง ฝน ต้นฝน และปลายฝน- เอาวัชพืชออกก่อนรอบโค่นต้นรัศมี 1 เมตร ใช้ต้นละ 80 กรัม- ตัดแต่งกิ่งปีที่ 1 ช่วงปลายฝน ตัดริดลำต้นเหลือยอดไว้ใช้สีน้ำมันหรือปูนขาวทาแผลที่จุดตัด ให้ตัดกิ่งแขนงเหลือกิ่งกระโดงกิ่งเดียวยอดยางสูงไม่ยอมแตกกิ่ง ห้ามตัดยอดเด็ดขาดเพราะต้องการเลี้ยงต้นให้สูงตรงระยะกรีดมากการดูแลยางในพื้นที่แห้งแล้ง- หากหมดฝน 6-7 เดือน ฝนน้อยดินขาดความชื้นหากเป็นยางต้นเล็กยังอ่อนอยู่จะชงักการเติบโตและอาจแห้งตาย- หน้าแล้งให้คลุกโดนด้านยางด้วย หญ้า ฟางข้าว เศษหญ้าคา ให้พิจารณาของถูกหาง่ายในท้องถิ่นมาทดแทนโดยเฉพาะยางที่มีอายุ 0-3 ปี เว้นห่างโดนต้น 1 คืบ คลุมกว้างรัศ 1 เมตร จากต้น การคลุมฟางหญ้าจะทำให้รักษาความชื้นบริเวณต้นยางได้- ให้คลุมก่อนเข้าหน้าแล้ง 1 เดือน หรือในขณะที่ดินยังชื้นอยู่- การคลุมอาจคลุมเป็นวงกลมรอบโคนต้นหรือคลุมเป็นแถวต้นยางก็ได้การป้องกันต้นยางจากความร้อน- เข้าหน้าแล้งให้ดูเปลือกยางเป็นแผลไหม้จากแสงแดดหากพบให้ใช้ปูนขาวละเลงน้ำทาต้นยางสูงจากดิน 1 เมตร- รักษาแผลยางโดยใช้สีน้ำมันทาสีแผล- ระวังไฟไหม้สวนยางโดยทำแนวกันไฟด้วยถนนหรือที่ว่างที่ปราศจากเชื้อไฟ โดยรอบสวนยางหรือใช้รถไถหญ้าออกไปกว้างอย่างน้อย 3 เมตร- การทำให้ Buffer Zone โดยการใช้ร่องเขาทำฝายชะลอน้ำใช้ป่าไผ่ชื้นกันไฟ การใช้ต้นไม้อื่นปลูกไว้ที่แดนติดต่อกับไร่คนอื่นการดูแลต้นยางปีที่ 2- หากพบยางตายให้ปลูกซ่อมต้นฝนโดยใช้ยาง 2 ฉัตร- แบ่งใส่ปุ๋ย 3 ครั้ง- ใช้สูตร 20-10-12 ปริมาณ 110 กรัม/ตัน (ครึ่งกระป๋องนม) โดยการหว่านเป็นวงกลมแล้วคราดกลบ- ที่ลาดเทใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรรีย์ 2 จุด แล้วกลบ- ครั้งที่ 2 และ 3 ช่วง ต้นฝน 110 กรัม/ตัน และปลายฝน 120 กรัม/ต้นการดูแลต้นยางปีที่ 3- แบ่งปุ๋ย 2 ครั้ง สูตร 20-10-12 ต้นฝนและปลายฝนครั้งละ 180 กรัม/ต้น- ใส่โดยการขีดทางยาวขนานแถวยางห่าง 1 เมตร ใส่ปุ๋ยแล้วกลบ- ช่วงนี้ใบยางเริ่มคลุม- ยางผลัดใบ ผลิตใบ ออกดอก ให้กวาดใบยางไปไว้แถวๆ กลางแถวยางเพื่อป้องกันไฟไหม้ใกล้ๆ ต้นยางการดูแลต้นยางปีที่ 4- ยางเริ่มมีทรงพุ่มติดกัน- ห้ามไถระหว่างแถวจะตัดรากขาด ยางจะเสียกำลัง- ใส่ปุ๋ย 2 ครั้ง สูตร 20-10-12 ช่วงต้นฝนและปลายฝน 180 กรัม/ตัน- ใส่ 2 แถบ ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ต้นละ 2 กก.- กวาดใบยางไปอยู่กลางระหว่างแถวยางการดูแลต้นยางปีที่ 5-6- ใช้ปุ๋ยปีละ 2 ครั้ง ต้นฝน-ปลายฝน- ใส่ระหว่างแถว- ดูโรคทางรากวางแผนการเก็บเกี่ยวยาง- เส้นรอบวงลำต้นระยะสูงจากพื้นดิน 150 ซม. หากมากกว่า 50 ซม. มากกว่าครึ่งสวน ต้นยางก็พร้อมที่จะกรีดได้- เตรียมอุปกรณ์มีมีดกรีดยาง จอกยาง รางน้ำยาง ลวดรับถ้วยกับลำต้นยาง- กรีดรอยแรกที่ระดับสูง 150 ซม จากพื้นวัดมุม 30 องศา ขีดเส้นเอียงยาว 30 ซม. ที่กรีดครึ่งต้น- ความหนาที่กรีดน้อยกว่า 2.5 ซม.- ความสามารถในการกรีดยางคนละ 500 ต้น/วันการทำยางแผ่น- ทำแผ่นยางดิบ- รวบรวมน้ำยางใส่ถัง ฝาปิด กรองน้ำยางลงในถาด # 50- ใช้กรดฟอมิกเข้มข้น 90% 2 ช้อนแกงกับน้ำ 3 กระป๋องนม- เทน้ำยาลงไปกวนให้เข้ากัน- ใช้พายปาดฟองออก- ปิดฝาถาดทิ้งไว้ 30-45 นาที- ยางจะจับตัวเป็นก้อน เอาน้ำหล่อไว้- เทยางออกจากถาดลงวางบนโต๊ะ- ใช้เหล็กนวดยางให้แผ่ออกให้แบนๆ- เอาเข้าเครื่องรีด 3-4 ครั้ง- รีดดอก 1 ครั้ง- เอายางไปล้างน้ำให้สะอาด ไล่กรดออก- เอายางไปพึ่งในร่ม 6 ชั่วโมง- เก็บยางในโรงเรียน 15 วัน รอจำหน่ายยางแผ่นที่ดี- ไม่มีฟองอากาศ- ความชื้นน้อยกว่า 1.5%- ยืดหยุ่น- ดอกคมชัด- หนาน้อยกว่า 3 มม.- ยางแห้งใส- สีสม่ำเสมอตลอดทั้งแผ่น- น้ำหนัก 800-1200 กรัม/แผ่น- ขนาดกว้าง 38-46 ซม. ยาว 80-90 ซม.การขายยางแผ่น- รวบรวมหลายๆ คน แล้วขาย- แยกขายของใครก็เอาไปขายเอง
- แหล่งที่มา budmgt.com
วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น